06.05 น.
เดินทางถึงสนามบินอินชอน (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง ) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ “ย่านอินชอน ไชน่าทาวน์” ย่านชุมชนชาวจีนของเมืองอินชอน ซึ่งเป็นไชน่าทาวน์หนึ่งเดียวในประเทศเกาหลี โดยย่านนี้ถือกำเนิดในช่วงเดียวกันกับการเปิดท่าเรืออินชอนประมาณ ค.ศ.1883 โดยรัฐบาลเกาหลีมอบพื้นที่ให้กับชาวจีนที่อพยพมาในเวลานั้น ในอดีตเคยเป็นเคยเป็นร้านขายของต่างๆของเมืองจีน แต่ในปัจจุบันเป็นที่ตั้งร้านอาหารต่างๆ โดยสถานที่แห่งนี้เป็นต้นกำเนิดและศูนย์รวมร้านขาย จาจังมยอน บะหมี่ซอสดำชื่อดังของเกาหลี ซึ่งถ้าท่านต้องการกินจาจังมยอนแบบดั้งเดิมจะหากินได้แต่ที่นี่เท่านั้น โดยอาหารชนิดนี้นั้นได้มาจากแรงงานจีนที่อพยพเข้ามาเกาหลี ในช่วงปี 1884 และต่อมาได้ปรับรสชาติตามวัตถุดิบท้องถิ่น รวมถึงปรับให้เข้ากับลิ้นคนเกาหลีมากขึ้นด้วยจนมาเป็นจาจังมยอนในปัจจุบัน นอกจากนี้แล้วที่นี่ยังเต็มไปด้วยร้านค้ารวมถึงศิลปะต่างๆในแบบของจีนอีกด้วย
หลังจากนั้นนำท่านสู่หมู่บ้านเทพนิยายเกาหลี (Donghwa Village) หมู่บ้านนี้เป็นถนนสายหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับย่านไชน่าทาวน์ โดยชาวเมืองได้ตกแต่งที่นี่ด้วยประติมากรรมและสีสันต่างๆ ตัวละครต่างๆจากดิสนีย์ เช่น สโนว์ไวท์ หรือปีเตอร์แพน โดยต้นกำเนิดหมู่บ้านแห่งนี้เกิดจากช่วงปี ค.ศ.1884 ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวจีนอพยพเข้ามาเป็นจำนวนมาก ในทางกลับกันชาวเกาหลีที่เป็นคนท้องถิ่นกลับอพยพออกไปใช้ชีวิตที่เมืองอื่นมากขึ้นทำให้หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นหมู่บ้านที่เกือบร้าง ชาวเมืองที่เหลืออยู่จึงพยายามเพิ่มสีสันให้ชุมชนด้วยการตกแต่งสร้างสรรค์ ภาพวาดจากเทพนิยาย การ์ตูน และลายเส้นสดใส ให้กับตัวอาคารที่พัก และรั้วบ้าน จนมาเป็นหมุ่บ้านเทพนิยายในปัจจุบัน อิสระให้ท่านได้เดินเล่นถ่ายรูปตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ "ไร่สตรอเบอร์รี่" (Stawberry Farm) โดยสตรอเบอร์รี่นั้นเป็นผลไม้ที่สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งรัฐบาลนั้นมีการส่งเสริมการปลูกสตรอเบอร์รี่เป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันเกาหลีใต้นั้นติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกในการผลิตสตรอเบอร์รี่สด รองลงมาจากจากสหรัฐ เม็กซิโก ตุรกี สเปน และเกาหลีนั้นยังมีสายพันธ์สตรอเบอร์รี่เป็นของตัวเองด้วยคือ สายพันธุ์ “แมฮยัง” และสายพันธุ์ “ซอลฮยัง” โดยสตรอเบอร์รี่ของประเทศเกาหลีนั้นจะมีขนาดลูกใหญ่ รสชาติหอมหวาน ให้ท่านชมการสาธิตการปลูก การดูแลรักษาไร่สตรอเบอร์รี่จากทางไร่และอิสระให้ท่านถ่ายรูปกับไร่สตรอเบอร์รี่ตามอัธยาศัย นอกจากนี้แล้วสำหรับท่านที่อยากลิ้มลองรสชาติอันหวานฉ่ำของสตรอเบอร์รี่ ท่านก็สามารถเลือกซื้อสตรอเบอร์รี่สดจากทางไร่ได้อีกด้วย
*** เทคนิคการเลือกผลสตรอเบอร์รี่สดๆ นั้นหากอยากกินที่รสชาติหวาน เนื้อนุ่มละมุนลิ้น ต้องเลือกผลที่มีสีแดงสดทั่วทั้งผล กินแล้วจะรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที หากเป็นผลที่ยังไม่สุกเต็มที่ สีจะออกแดงส้มๆ ใกล้ๆ ขั้วยังมีสีขาวๆ ความหวานก็จะลดลงไป แต่แบบนี้จะเหมาะกับการเก็บไว้กินวันหลัง เพราะจะเก็บได้นานกว่า ***
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ข้าวยำสไตล์เกาหลี Bibimbub) ผักต่างๆหลากสีสันและเนื้อวัวหรือเนื้อหมูนำมาจัดเรียงกันบนข้าวสวยพร้อมเสริฟในชามกะทะร้อน ก่อนทานนำมาคลุกรวมกันพร้อมไข่ดิบและซอสบิบิมบับทานคู่กับกิมจิจะรสชาติเข้ากันอย่างมาก
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ “สกีรีสอร์ท” ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นสกีที่สกีรีสอร์ทสุดหรู ขนาดใหญ่ ท่ามกลางหิมะที่ขาวโพลน โดยการเล่นสกีนั้นจะแบ่งเส้นทางเป็นหลายแบบตามแต่ระดับผู้เล่นคือ ระดับพื้นฐานสำหรับมือใหม่ , ระดับกลาง และระดับ Advance สำหรับผู้ที่ชำนาญแล้ว ** ค่าอุปกรณ์ทั้งหมดไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ **
สำหรับท่านที่ไม่เล่นสกีก็สามารถเล่นหิมะหรือถ่ายรูปด้านนอกลานสกีได้ตามอัธยาศัย มีเวลาให้ท่านได้สนุกสนานกับลานสกีแบบเต็มอิ่ม นอกจากนี้สกีรีสอร์ทยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมายให้ท่านได้เลือกใช้บริการได้ตามอัธยาศัย
*** หมายเหตุ การเปิดปิดของลานสกีขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นหลัก ทางบริษัทไม่สามารถกำหนดได้และในปัจจุบันสกีรีสอร์ทไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ไม่ซื้อบัตรกิจกรรมกับทางรีสอร์ท เช่น บัตรกิจกรรมการเล่นสกี , การเล่นสโนว์สเลด หรือการเล่นกระเช้า เข้าไปถ่ายรูปด้านในลานสกี**
อุปกรณ์สกี ราคาประมาณ 50,000 – 80,000 วอน (แล้วแต่รีสอร์ท)
สโนว์สเลด ราคาประมาณ 30,000 – 40,000 วอน (แล้วแต่รีสอร์ท)
กระเช้ากอนโดล่า ราคาประมาณ 30,000 – 35,000 วอน (แล้วแต่รีสอร์ท)
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ไก่เกาหลีผัดกะทะร้อน DAKKALBI)
ไก่หมักบาบีคิวที่ถูกเสริฟมาพร้อมกับ ต้นหอม ผักกาด และกะหล่ำปลี หมักด้วยซอสโคชูจัง นำลงไปผัดกับกระทะร้อนจานใหญ่ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือ ห่อผักกาดเขียวรับประทานกับซอสซัมจัง ก็ได้
ที่พัก
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ELYSIAN SKI RESORT หรือเทียบเท่า