ไชน่าทาวน์ - หมู่บ้านเทพนิยายเกาหลี - ไร่สตรอเบอร์รี่ – สกีรีสอร์ท (พักค้างคืนสกีรีสอร์ท 1 คืน) - เทศกาลตกปลาน้ำแข็งที่ฮวาชอน ซานชอนอ (2024 Hwacheon Sancheoneo Ice Festival ) - ศูนย์เครื่องสำอางแบรนด์ดังเกาหลี – ถนนฮงแด - ศูนย์โสมรัฐบาลเกาหลี - หมู่บ้านโบราณอึนพยอง –พิพิธภัณฑ์สาหร่าย -  ศูนย์สมุนไพรน้ำมันสนแดง – พระราชวังชางด๊อกกุง - ย่านเมียงดง - ศูนย์โสมรัฐบาลเกาหลี - หมู่บ้านโบราณอึนพยอง –พิพิธภัณฑ์สาหร่าย -  ศูนย์สมุนไพรน้ำมันสนแดง – พระราชวังชางด๊อกกุง - ย่านเมียงดง
  • เทศกาลตกปลาน้ำแข็ง เกาหลี พักสกี รีสอร์ท 5วัน 3คืน โดยสายการบิน Air Busan (BX)

    รหัสทัวร์
    : KK24GO3ICN-BX004
    รหัสโปรแกรม
    สายการบิน
    ระยะเวลา
    มื้ออาหาร
    : 5 มื้อ
    เส้นทาง
    : โซล

    Hightlightไฮไลท์ทัวร์

    ไชน่าทาวน์ - หมู่บ้านเทพนิยายเกาหลี - ไร่สตรอเบอร์รี่ – สกีรีสอร์ท (พักค้างคืนสกีรีสอร์ท 1 คืน) - เทศกาลตกปลาน้ำแข็งที่ฮวาชอน ซานชอนอ (2024 Hwacheon Sancheoneo Ice Festival ) - ศูนย์เครื่องสำอางแบรนด์ดังเกาหลี – ถนนฮงแด - ศูนย์โสมรัฐบาลเกาหลี - หมู่บ้านโบราณอึนพยอง –พิพิธภัณฑ์สาหร่าย - ศูนย์สมุนไพรน้ำมันสนแดง – พระราชวังชางด๊อกกุง - ย่านเมียงดง - ศูนย์โสมรัฐบาลเกาหลี - หมู่บ้านโบราณอึนพยอง –พิพิธภัณฑ์สาหร่าย - ศูนย์สมุนไพรน้ำมันสนแดง – พระราชวังชางด๊อกกุง - ย่านเมียงดง

    รายละเอียดทัวร์

    • 22.00 น.

      คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก

      22.25 น.

      ออกเดินทางสู่กรุงโซล ประเทศเกาหลีด้วยเที่ยวบิน BX748
    • 06.05 น.

      เดินทางถึงสนามบินอินชอน (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง ) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
      หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ “ย่านอินชอน ไชน่าทาวน์” ย่านชุมชนชาวจีนของเมืองอินชอน ซึ่งเป็นไชน่าทาวน์หนึ่งเดียวในประเทศเกาหลี โดยย่านนี้ถือกำเนิดในช่วงเดียวกันกับการเปิดท่าเรืออินชอนประมาณ ค.ศ.1883 โดยรัฐบาลเกาหลีมอบพื้นที่ให้กับชาวจีนที่อพยพมาในเวลานั้น ในอดีตเคยเป็นเคยเป็นร้านขายของต่างๆของเมืองจีน แต่ในปัจจุบันเป็นที่ตั้งร้านอาหารต่างๆ โดยสถานที่แห่งนี้เป็นต้นกำเนิดและศูนย์รวมร้านขาย จาจังมยอน บะหมี่ซอสดำชื่อดังของเกาหลี ซึ่งถ้าท่านต้องการกินจาจังมยอนแบบดั้งเดิมจะหากินได้แต่ที่นี่เท่านั้น โดยอาหารชนิดนี้นั้นได้มาจากแรงงานจีนที่อพยพเข้ามาเกาหลี ในช่วงปี 1884 และต่อมาได้ปรับรสชาติตามวัตถุดิบท้องถิ่น รวมถึงปรับให้เข้ากับลิ้นคนเกาหลีมากขึ้นด้วยจนมาเป็นจาจังมยอนในปัจจุบัน นอกจากนี้แล้วที่นี่ยังเต็มไปด้วยร้านค้ารวมถึงศิลปะต่างๆในแบบของจีนอีกด้วย
      หลังจากนั้นนำท่านสู่หมู่บ้านเทพนิยายเกาหลี (Donghwa Village) หมู่บ้านนี้เป็นถนนสายหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับย่านไชน่าทาวน์ โดยชาวเมืองได้ตกแต่งที่นี่ด้วยประติมากรรมและสีสันต่างๆ ตัวละครต่างๆจากดิสนีย์ เช่น สโนว์ไวท์ หรือปีเตอร์แพน โดยต้นกำเนิดหมู่บ้านแห่งนี้เกิดจากช่วงปี ค.ศ.1884 ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวจีนอพยพเข้ามาเป็นจำนวนมาก ในทางกลับกันชาวเกาหลีที่เป็นคนท้องถิ่นกลับอพยพออกไปใช้ชีวิตที่เมืองอื่นมากขึ้นทำให้หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นหมู่บ้านที่เกือบร้าง ชาวเมืองที่เหลืออยู่จึงพยายามเพิ่มสีสันให้ชุมชนด้วยการตกแต่งสร้างสรรค์ ภาพวาดจากเทพนิยาย การ์ตูน และลายเส้นสดใส ให้กับตัวอาคารที่พัก และรั้วบ้าน จนมาเป็นหมุ่บ้านเทพนิยายในปัจจุบัน อิสระให้ท่านได้เดินเล่นถ่ายรูปตามอัธยาศัย
      นำท่านเดินทางสู่ "ไร่สตรอเบอร์รี่" (Stawberry Farm) โดยสตรอเบอร์รี่นั้นเป็นผลไม้ที่สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งรัฐบาลนั้นมีการส่งเสริมการปลูกสตรอเบอร์รี่เป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันเกาหลีใต้นั้นติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกในการผลิตสตรอเบอร์รี่สด รองลงมาจากจากสหรัฐ เม็กซิโก ตุรกี สเปน และเกาหลีนั้นยังมีสายพันธ์สตรอเบอร์รี่เป็นของตัวเองด้วยคือ สายพันธุ์ “แมฮยัง” และสายพันธุ์ “ซอลฮยัง” โดยสตรอเบอร์รี่ของประเทศเกาหลีนั้นจะมีขนาดลูกใหญ่ รสชาติหอมหวาน ให้ท่านชมการสาธิตการปลูก การดูแลรักษาไร่สตรอเบอร์รี่จากทางไร่และอิสระให้ท่านถ่ายรูปกับไร่สตรอเบอร์รี่ตามอัธยาศัย นอกจากนี้แล้วสำหรับท่านที่อยากลิ้มลองรสชาติอันหวานฉ่ำของสตรอเบอร์รี่ ท่านก็สามารถเลือกซื้อสตรอเบอร์รี่สดจากทางไร่ได้อีกด้วย
      *** เทคนิคการเลือกผลสตรอเบอร์รี่สดๆ นั้นหากอยากกินที่รสชาติหวาน เนื้อนุ่มละมุนลิ้น ต้องเลือกผลที่มีสีแดงสดทั่วทั้งผล กินแล้วจะรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที หากเป็นผลที่ยังไม่สุกเต็มที่ สีจะออกแดงส้มๆ ใกล้ๆ ขั้วยังมีสีขาวๆ ความหวานก็จะลดลงไป แต่แบบนี้จะเหมาะกับการเก็บไว้กินวันหลัง เพราะจะเก็บได้นานกว่า ***

      กลางวัน

      รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ข้าวยำสไตล์เกาหลี Bibimbub) ผักต่างๆหลากสีสันและเนื้อวัวหรือเนื้อหมูนำมาจัดเรียงกันบนข้าวสวยพร้อมเสริฟในชามกะทะร้อน ก่อนทานนำมาคลุกรวมกันพร้อมไข่ดิบและซอสบิบิมบับทานคู่กับกิมจิจะรสชาติเข้ากันอย่างมาก

      บ่าย

      จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ “สกีรีสอร์ท” ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นสกีที่สกีรีสอร์ทสุดหรู ขนาดใหญ่ ท่ามกลางหิมะที่ขาวโพลน โดยการเล่นสกีนั้นจะแบ่งเส้นทางเป็นหลายแบบตามแต่ระดับผู้เล่นคือ ระดับพื้นฐานสำหรับมือใหม่ , ระดับกลาง และระดับ Advance สำหรับผู้ที่ชำนาญแล้ว ** ค่าอุปกรณ์ทั้งหมดไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ **
      สำหรับท่านที่ไม่เล่นสกีก็สามารถเล่นหิมะหรือถ่ายรูปด้านนอกลานสกีได้ตามอัธยาศัย มีเวลาให้ท่านได้สนุกสนานกับลานสกีแบบเต็มอิ่ม นอกจากนี้สกีรีสอร์ทยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมายให้ท่านได้เลือกใช้บริการได้ตามอัธยาศัย
      *** หมายเหตุ การเปิดปิดของลานสกีขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นหลัก ทางบริษัทไม่สามารถกำหนดได้และในปัจจุบันสกีรีสอร์ทไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ไม่ซื้อบัตรกิจกรรมกับทางรีสอร์ท เช่น บัตรกิจกรรมการเล่นสกี , การเล่นสโนว์สเลด หรือการเล่นกระเช้า เข้าไปถ่ายรูปด้านในลานสกี**
      อุปกรณ์สกี ราคาประมาณ 50,000 – 80,000 วอน (แล้วแต่รีสอร์ท) สโนว์สเลด ราคาประมาณ 30,000 – 40,000 วอน (แล้วแต่รีสอร์ท) กระเช้ากอนโดล่า ราคาประมาณ 30,000 – 35,000 วอน (แล้วแต่รีสอร์ท)

      ค่ำ

      รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ไก่เกาหลีผัดกะทะร้อน DAKKALBI) ไก่หมักบาบีคิวที่ถูกเสริฟมาพร้อมกับ ต้นหอม ผักกาด และกะหล่ำปลี หมักด้วยซอสโคชูจัง นำลงไปผัดกับกระทะร้อนจานใหญ่ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือ ห่อผักกาดเขียวรับประทานกับซอสซัมจัง ก็ได้

      ที่พัก

      นำท่านเข้าสู่ที่พัก ELYSIAN SKI RESORT หรือเทียบเท่า
    • เช้า

      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
      นำท่านสัมผัสประสบการณ์เทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ที่เทศกาลตกปลาน้ำแข็งที่ฮวาชอน ซานชอนอ (2024 Hwacheon Sancheoneo Ice Festival ) หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียว!! จัดขึ้นประมาณช่วงกลางเดือนมกราคมของทุกปี ให้ท่านได้สนุกเพลิดเพลินกับการตกปลาเทราท์ในน้ำแข็ง ในช่วงฤดูหนาว ปกติแม่น้ำในเมืองฮวาชอนจะกลายเป็นน้ำแข็ง และเจาะพื้นน้ำแข็งให้เป็นรูวงกลม แล้วหย่อนเบ็ดลงไปให้ปลามากินเหยื่อ โดยปกติจะเป็นปลาซันชอนออ (산천어) หรือ ปลาเทราต์ภูเขา เป็นปลาน้ำจืดที่มีอยู่ตามธรรมชาติ อาศัยอยู่ในน้ำสะอาด ซึ่งปลาที่ตกมาได้นั้น สามารถนำปลามาทำเป็นซูชิ , ซาชิมิ รับประทานได้เลย และภายในงานจะมีกิจกรรมต่างๆ อาทิเช่น การแข่งขันจับปลาเทร้าท์ด้วยมือเปล่า การโชว์แกะสลักน้ำแข็ง แข่งขันชิงแชมป์สุนัขลากเลื่อนหิมะ การแข่งขันฟุตบอลบนน้ำแข็ง กีฬาน้ำแข็งอื่นๆ ถือได้ว่าเป็นงานใหญ่ที่หลายคนเฝ้ารอคอย (ไม่รวมอุปกรณ์ตกปลา ประมาณ 25,000 วอน)

      กลางวัน

      รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (บุลโกกิ เนื้อย่างสไตล์เกาหลี) เนื้อหมูหรือเนื้อวัวสไลด์หมักด้วยซอสเกาหลีและผลไม้ต่างๆทำให้เนื้อมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มลิ้นน่ารับประทานนำมาย่างบนเตาถ่านหรือเตาไฟฟ้าพร้อมราดซอสสูตรพิเศษของเกาหลี เสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆหรือจะนำมาห่อกับผักรับประทานก็ได้

      บ่าย

      หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ศูนย์เครื่องสำอางแบรนด์ดังเกาหลี (Cosmetic Centre) ซึ่งเป็นแหล่งที่ขายเครื่องสำอางชั้นนำของเกาหลีมากมาย อาทิ เช่น LANEIGN , SULWASOO , ROJU KISS ให้ท่านได้เลือกซื้อเครื่องสำอางชั้นนำในราคาพิเศษ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ย่านถนนฮงแด (Hongdae Street) แหล่งช้อปปิ้งชั้นนำของกรุงโซล ตั้งอยู่หน้ามหาลัยฮงอิก (Hongik University) เป็นแหล่งรวมสินค้าแฟชั่นมากมายของเกาหลี มีร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ตั้งอยู่เรียงรายเต็มไปหมด นอกจากนี้ย่านฮงแดยังมักเป็นที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมทางศิลปะ การแสดง และงานเทศกาลที่น่าสนใจต่างๆ รวมถึงสตรีทอาร์ทอีกด้วย

      ค่ำ

      รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ชาบูเกาหลี) ชาบูหม้อไฟสไตล์เกาหลี หมูสไลซ์แล่มาพอดีคำ พร้อมเห็ดและผักหลากหลายชนิดนำมารวมกันไว้ในหม้อแล้วเติมด้วยน้ำซุปร้อนๆตามสูตรของทางร้านต้มจนเดือดก่อนเติมวุ้นเส้นลงไปพร้อมรับประทาน ทานคู่กับน้ำจิ้มสุกี้จะรสชาติเข้ากันอย่างมาก

      ที่พัก

      นำท่านเข้าสู่ที่พัก L’ART HOTEL หรือเทียบเท่า
    • เช้า

      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
      นำท่านเดินทางสู่ศูนย์โสมรัฐบาลเกาหลี (Ginseng Centre) ศูนย์โสมที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาล โดยในบรรดาสมุนไพรทั้งหมดของเกาหลี โสมนั้นได้รับความนิยมมากที่สุด โดยคนเกาหลีเชื่อว่าโสมนั้นรักษาได้หลายอย่างและช่วยปรับสมดุลในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรฮอกเกตนามู (Hocgae Namu Herb) โดยฮอกเก็ตนามูนั้นเป็นสมุนไพรที่ขึ้นเฉพาะประเทศเกาหลี 10 ปีจะออกดอกหนึ่งครั้ง ต้องปลูกในที่อากาศหนาวเย็น บริสุทธิ์ ระดับ 800 เมตรเหนือน้ำทะเล โดยทุกส่วน ไม่ว่ากิ่ง ก้าน ใบ ล้วนเป็นสมุนไพรได้หมด ฮอกเก็ตนามูนั้นมีสรรพคุณช่วยขับสารพิษตกค้างต่างๆออกจากตับอย่างปลอดภัย ฟื้นฟูตับ ทำให้ตับแข็งแรง สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย
      นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านโบราณอึนพยอง (Eunpyeong Hanok Village) หมู่บ้านโบราณของเกาหลีหรือที่รู้จักกันว่า “ฮันอก”โดยฮันอกเป็นสไตล์บ้านโบราณของเกาหลีที่มีโครงสร้างหลักเป็นไม้เกือบทั้งหลัง มีเพียงส่วนของพื้นและเสาที่มีการใช้หินและดิน หลังคาเป็นกระเบื้องดินเผา สำหรับหมู่บ้านโบราณอึนพยองนั้นตั้งอยู่ใจกลางเมืองโซลบริเวณเชิงเขาพุคันซาน เขตอึนพยอง โดยหมู่บ้านนี้เริ่มสร้างเมื่อปี 2012 โดยมีจุดประสงค์ให้เป็นที่อยู่อาศัยและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปพร้อมกัน ให้ท่านได้เดินเล่นถ่ายรูปคู่กับหมู่บ้านโบราณพร้อมฉากหลังเป็นภูเขาที่เต็มไปด้วยการกระจายของใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงปลายปีตามอัธยาศัย นอกจากนี้ที่พลาดไม่ได้คือการดื่มด่ำบรรยากาศจากการจิบกาแฟและชาโบราณของเกาหลีพร้อมชมวิวของหมู่บ้านโบราณอึนพยอง ** ค่าเครื่องดื่มไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ ** โดยร้านกาแฟในหมู่บ้านอึนพยองนั้นจะตกแต่งแบบโบราณให้เข้ากับสไตล์ฮันอก ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเกาหลีเป็นอย่างมาก โดยนักท่องเที่ยงเกาหลีนั้นนิยมมานั่งพักดื่มกาแฟ ปล่อยชีวิตให้ช้าลง พร้อมชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของหมู่บ้านอึนพยองซึ่งเข้ากับบรรยากาศอย่างยิ่ง
      หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์สาหร่าย (Seaweed Museum) ให้ท่านได้เรียนรู้ต้นกำเนิดของสาหร่ายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่ผลิตและแสดงการเลี้ยงสาหร่ายแบบครบวงจร ให้ท่านได้เลือกซื้อสาหร่ายรสชาติต่างๆตามอัธยาศัย ** พิเศษให้ท่านได้ลองใส่ชุดฮันบก ชุดประจำชาติเกาหลี และสนุกสนานไปกับกิจกรรมทำ Kimbap อาหารพื้นเมืองของเกาหลี***

      กลางวัน

      รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (ไก่ตุ๋นโสมเกาหลี) ไก่ขนาดแบบพอเหมาะ นำมาต้มมาจนเปื่อยนุ่มกำลังพอดียัดไส้ด้วยข้าวเหนียว รากโสม เมล็ดฟักทอง งาดำ วอลนัท เมล็ดสน เกาลัด พุทธาจีน แป๊ะก๊วย กระเทียมและเครื่องปรุงอื่นๆ ตุ๋นเข้ากับโสมเกาหลี นิยมทานเพื่อบำรุงสุภาพและบำรุงสมอง ได้คุณโภชนาการครบ

      บ่าย

      หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ศูนย์สมุนไพรน้ำมันสนแดง (Red Pine) ศูนย์จำหน่ายน้ำมันที่ผลิตจากสนแดง โดยคนเกาหลีเชื่อว่าน้ำมันสนแดงนั้นช่วยในการลดไขมันและน้ำตาลในเส้นเลือด เหมาะสำรับผู้ป่วยเบาหวาน หรือคลอเรสเตอรอลในเส้นเลือด
      หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่พระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung Palace) พระราชวังที่ได้ขึ้นทะเบียนจาก Unesco ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของเกาหลีเป็นพระราชวังอันดับสองที่สร้างขึ้นต่อพระราชวังเคียงบก (Gyeongbukgung Palace) โดยสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1405 ในรัชสมัยกษัตริย์แทจง ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์หลายพระองค์ในราชวงศ์โชซอล โดยภายในวังจะแบ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นในและเขตพระราชฐานชั้นนอก พระราชวังแห่งนี้ได้รับสมญานามว่า พระราชวังตะวันออก หรือ ทงวอล โดยพระราชวังแห่งนี้ที่มีส่วนที่เรียกสวนลับ หรือ สวนต้องห้าม ซึ่งสวนแห่งนี้เป็นสวนที่ใช้เฉพาะกษัตริย์เท่านั้น แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาได้ ทำให้สวนแห่งนี้ถูกขนานนามว่าสวนต้องห้าม ในปัจจุบันพระราชวังชางด๊อกกุงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเกาหลี และเป็นสถานที่ที่คนนิยมมาดูใบไม้เปลี่ยนสีกันในฤดูใบไม้ร่วง
      หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ย่านเมียงดง (Myeongdong) ย่านช้อปปิ้งใจกลางกรุงโซลที่เต็มไปด้วยร้านค้า ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ร้านอาหารริมทางมากมาย โดยเมียงดงนั้นเป็นแขวงหนึ่งในเขตกรุงโซล มีพื้นที่เป็นที่ตั้งของร้านค้ากระจายตัวไปทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก มีห้างสรรพสินค้าขนาดย่อม มีร้านขายสินค้าแบรนด์เนมมากมาย และยังสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นแลนด์มาร์กยอดนิยมมากมายด้วย อิสระให้ท่านได้เดินเล่นเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย

      ค่ำ

      รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (BBQ เกาหลี) บุฟเฟ่ท์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลี มีเมนูให้เลือกหลากหลายทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่หรืออาหารทะเลพร้อมเคื่องเคียงต่างๆ เช่น ผักกาดหอม หัวไช้เท้าดอง ถั่วงอก และกระเทียม ทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรพิเศษของทางเกาหลี พร้อมเสิร์ฟไม่อั้น

      ที่พัก

      นำท่านเข้าสู่ที่พัก L’ART HOTEL หรือเทียบเท่า
    • เช้า

      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
      นำท่านเดินทางสู่หอคอยเมืองโซล หรือ เอ็นโซลทาวเวอร์ ( N Seoul Tower) หอคอยสัญลักษณ์ของกรุงโซลที่ตั้งอยู่ที่ภูเขานัมซาน มีความสูงจากฐานประมาณ 236.7 เมตร และสูงถึง 480 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งถือว่าเป็นหอคอยที่สูงที่สุดติดอันดับ 1 ใน 18 อันดับของโลก สร้างขึ้นเมื่อปี 1988 แต่เดิมใช้ชื่อ “โซลทาวเวอร์“ และรีโนเวทใหม่ในปี 2005 พร้อมกับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “เอ็นโซลทาวเวอร์” โดยตัวอักษร N เป็นตัวอักษรย่อที่ชื่อความหมายมาจากคำ 3 คำ คือ New (ใหม่), Natural (ธรรมชาติ) และ Namsan (นัมซาน) จึงทำให้เป็นที่รู้จักในอีกชื่อคือ นัมซานทาวเวอร์ (Namsan Tower) อีกด้วย โดยในปัจจุบันนั้นเอ็นโซลทาวเวอร์นับเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงโซล ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันเป็นอย่างมาก ภายในประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและจุดชมวิวของเอ็นโซลทาวเวอร์นั้นยังนับว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงโซลอีกด้วย **ค่าขึ้นหอคอยไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ ** นอกจากนี้แล้วเอ็นโซลทาวเวอร์ยังนับว่าเป็นสถานที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเกาหลีใต้เพราะเป็นสถานที่ตั้งของ “ Locks of Love” สถานที่คล้องกุญแจชื่อดังที่คู่รักนิยมมาคล้องกุญแจล๊อคกับราวเหล็กบริเวณฐานของเอ็นโซลทาวเวอร์โดยความเชื่อว่ากันคู่รักที่มาคล้องกุญแจจะมีความรักที่ยืนยาวไปตลอดกาล
      นำท่านเดินทางต่อสู่ตลาดโบราณควางจัง (Gwangjang Market) หนึ่งในตลาดที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศเกาหลีใต้มีอายุมากกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้ถือกำเนิดเมื่อปี 1905 ครั้งหนึ่งเคยถูกทำลายไปในช่วงสงครามเกาหลีก่อนถูกบูรณะฟื้นฟูใหม่จนเป็นตลาดในแบบปัจจุบัน ตลาดควางจังนั้นประกอบไปด้วยร้านค้ามากกว่า 1,500 ร้าน จำหน่ายทั้งผลไม้, ผัก, เนื้อปลา, ขนมปัง, เสื้อผ้า, สิ่งทอ, หัตถกรรม, เครื่องครัว, ของที่ระลึกและยาพื้นบ้านเกาหลี และยังเป็นเป็นศูนย์รวมของ Street Food ที่ราคาไม่แพงของเกาหลีด้วย ** พลาดไม่ได้กับร้าน Gohyang Kalguksu ร้านบะหมี่โฮมเมดชื่อดังของ Netflix ซึ่งเป็นร้านบะหมี่ที่ทำเส้นสดชามต่อชามและเคยออกสารคดีของ Netflix ในตอน Street food โดยนอกจากบะหมี่เส้นสดแล้วร้านนี้ยังมีเกี๊ยวน้ำที่มีสูตรเฉพาะของทางร้านซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากอีกด้วย ***
      อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

      บ่าย

      หลังจากนั้นนำท่านสู่ซูเปอร์มาร์เกต หรือ ฉายาร้านค้าละลายเงินวอน ให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของเกาหลีก่อนกลับประเทศไทย เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลี , นมกล้วย , เยลลี่ยาคูลท์ และสินค้าแบรนด์พื้นเมืองต่างๆมากมาย

      13.30 น.

      นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน

      17.00 น.

      ออกเดินทางสู่กรุงเทพ โดยเที่ยวบินที่ BX747

      21.25 น.

      เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

    มื้ออาหาร

    วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
    1
    2
    3
    4
    5

    เงื่อนไขการจองทัวร์

    ภาพรวม

    1. ชำระเงินมัดจำท่านละ 10,000 บาท+ ค่า K-ETA 500 บาท (ค่ามัดจำ + K-ETA ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่น K-ETA ให้) ***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่น K-ETA ให้ จะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
    2. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน (อายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทาง) ภายใน 3 วันนับจากวันจอง
    3. กรณีหนังสือเดินทางต่างชาติ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มท่านละ 100 USD ต่อท่าน
    4. กรณีท่านที่ใช้หนังสือราชการ (เล่มน้ำเงิน) ในการเดินทางท่องเที่ยวกับคณะทัวร์ หากถูกปฏิเสธในการเข้า - ออก ประเทศใดๆก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าทัวร์หรือรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
    5. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (เช่น กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
    6. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด
    7. ตามนโยบายของรัฐบาลเกาหลีใต้ ร่วมกับการท่องเที่ยวเกาหลีใต้เพื่อโปรโมทสินค้าในนามของร้านรัฐบาล คือ สมุนไพรโสม สมุนไพรฮอกเกนามู น้ำมันสน ศูนย์เครื่องสำอางค์ (คอสเมติค) พลอยอเมทิส ร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) และร้านอื่นๆ ซึ่งจำเป็นต้องระบุไว้ในโปรแกรมทัวร์ ทางบริษัทฯ จึงขอเรียนชี้แจงผู้เดินทางทุกท่านว่า ร้านรัฐบาลทุกร้านทุกท่านจำเป็นต้องเข้าแวะชม หากประสงค์จะซื้อสินค้าหรือไม่ซื้อ ขึ้นอยู่กับความพอใจของท่านเป็นหลัก ไม่มีการบังคับใดๆ ทั้งสิ้น
      • เนื่องจากโปรแกรมทัวร์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะเท่านั้น ถ้าหากผู้เดินทางต้องการแยกตัวออกจากคณะทัวร์ หรือ ไม่ลงร้านค้าตามที่ระบุในโปรแกรม ทางบริษัทต้องคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก 300 USD ต่อท่าน

    อัตรานี้รวม

    1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (น้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม และ ถือ ขึ้นเครื่อง 10 กิโลกรัม)
    2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
    3. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
    4. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
    5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
    6. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
    7. ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)

    ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท

    ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)

    ** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ **

    -           เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]

    -           เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน]

    **ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี ** 

    [รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]

    1. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)

    อัตรานี้ไม่รวม

    1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
    2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 23 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
    3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
    4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
    5. 5. ค่าทิปพนักงานขับรถ และ ไกด์ (2,000 บาท/ต่อท่าน ทุกท่านกรุณาชำระที่สนามบินก่อนเช็คอิน)

    ส่วนค่าทิปหัวหน้าทัวร์จากเมืองไทย แล้วแต่ตวามพึงพอใจในการบริการ

    1. ค่าบริการลงทะเบียน K-ETA ครั้งละ 500 บาท
    รหัสทัวร์ : KK24GO3ICN-BX004